6 กลยุทธ์การตลาดฮับที่เหมาะสม
สำหรับแบรนด์ของคุณ BY CEO แฟร์

สวัสดีครับ ผม CEO แฟร์ จาก Images Hubs ครับ วันนี้ผมจะมานำเสนอบทความ “6 กลยุทธ์การตลาดฮับที่เหมาะสมสำหรับแบรนด์ของคุณ” เพราะ กลยุทธ์การตลาดเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในกระบวนการสร้างและส่งเสริมแบรนด์ และบริหารการตลาดขององค์กรหรือธุรกิจ
สารบัญ
ก่อนจะดูกลยุทธ์การตลาดเราต้องรู้ก่อนว่า กลยุทธ์การตลาดคืออะไร

กลยุทธ์การตลาด คือ แผนที่ใช้ในการวางแผนและดำเนินการเพื่อสร้างความสำเร็จในการตลาดฮับ ผลิตภัณฑ์หรือบริการขององค์กรหรือแบรนด์ โดยการกำหนดเป้าหมายการตลาดและเส้นทางการดำเนินงานในการส่งเสริมและการตลาดผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายขององค์กร
โดยการสร้างกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสมสำหรับแบรนด์ของคุณเป็นกระบวนการที่ค่อนข้างซับซ้อน และขึ้นอยู่กับองค์กรและตลาดที่เป้าหมายของคุณ และ 6 กลยุทธ์การตลาดฮับที่ผม CEO แฟร์ นั้นจะมาพูดในวันนี้
1.กลยุทธ์การตลาดทางเนื้อหา (Content Marketing Strategy)

กลยุทธ์การตลาดทางเนื้อหา (Content Marketing Strategy) เป็นกลยุทธ์ที่เน้นใช้เนื้อหาที่มีคุณค่าและน่าสนใจเพื่อสร้างความน่าสนใจและความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายขององค์กรหรือแบรนด์ การใช้เนื้อหาที่เกี่ยวข้องและมีความหลากหลายชนิด เช่นบทความ, วิดีโอ, รูปภาพ, โพสต์ในสื่อสังคม และเนื้อหาอื่นๆ ที่เพื่อส่งเสริมและสร้างความสนใจให้กับผลิตภัณฑ์หรือบริการขององค์กรหรือแบรนด์
ผม CEO แฟร์ ว่ากลยุทธ์การตลาดทางเนื้อหา เป็นกลยุทธ์ที่จะคอนเทนต์ในการสร้างความน่าสนใจและความสัมพันธ์กลุ่มเป้าหมายของลูกค้าในธุรกิจของคุณ แต่ถ้าใครยังไม่เข้าใจผมมีตัวอย่างมาอธิบายให้คุณได้เข้าใจ เช่น
ตัวอย่างการสร้างบล็อกเนื้อหา คือ การสร้างบล็อกเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายและสินค้าหรือบริการของคุณ เช่น บล็อกเนื้อหาเกี่ยวกับคำแนะนำในการใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณ หรือบล็อกเนื้อหาเกี่ยวกับเทคนิคและความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่คุณดำเนินธุรกิจ
ตัวอย่างการสร้างวิดีโอเพื่อนำเสนอเนื้อหาของธุรกิจของคุณ คือ สร้างวิดีโอที่น่าสนใจและเป็นความบันเทิงเพื่อแชร์ในสื่อสังคม เช่น วิดีโอสอนการใช้งาน, วิดีโอของลูกค้าใช้สินค้าของคุณ หรือวิดีโอโดนใจที่จะกระตุ้นความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย
ตัวอย่างรีวิวและเปรียบเทียบ คือให้รีวิวสินค้าและบริการของคุณที่มีความคิดเห็นอย่างโปร่งใสและเปรียบเทียบกับคู่แข่ง ช่วยเสริมสร้างความน่าสนใจให้กับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ
นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งในตัวอย่างกลยุทธ์การตลาดทางเนื้อหาที่ผมเสนอให้นะครับ ลองเลือกใช้ดูในธุรกิจกันนะครับ
2.กลยุทธ์การตลาดของโซเชียลมีเดีย
(Social Media Marketing Strategy)

กลยุทธ์การตลาดของโซเชียลมีเดีย (Social Media Marketing Strategy) เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์, อินสตาแกรม, ลิงก์อิน และอื่นๆ เพื่อสร้างและส่งเสริมแบรนด์ สร้างความสนใจและความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย โดยใช้เนื้อหาที่น่าสนใจและเพื่อส่งเสริมการตลาดผลิตภัณฑ์หรือบริการขององค์กรหรือแบรนด์ให้กับกลุ่มเป้าหมาย
ผม CEO แฟร์ ว่า กลยุทธ์การตลาดของโซเชียลมีเดีย เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อประชาสัมพันธ์ธุรกิจหรือสินค้าของคุณ แต่ถ้าใครยังไม่เข้าใจผมมีตัวอย่างมาอธิบายให้คุณได้เข้าใจ เช่น
การแข่งขันและแลกเปลี่ยนข้อมูล คือการจัดกิจกรรมแข่งขันหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลในสื่อสังคม เช่น แข่งขันค้นหาคำตอบ, แลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือรูปภาพในสังคม
แคมเปญโปรโมชั่น คือสร้างแคมเปญโปรโมชั่นที่น่าสนใจให้กับผู้ติดตาม เช่น ส่งของขวัญสำหรับผู้ชนะแคมเปญที่ร่วมสนุกในการแชร์เนื้อหา
การพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น คือสร้างพื้นที่ในสื่อสังคมให้กับกลุ่มเป้าหมายในการพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ
วิดีโอสัมภาษณ์ คือสร้างวิดีโอสัมภาษณ์กับลูกค้าหรือตัวแทนบุคคลที่มีชื่อเสียงเพื่อเสริมสร้างความน่าสนใจในแบรนด์ของคุณ
นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งในตัวอย่างกลยุทธ์การตลาดทางโซเชียลมีเดียที่ผมเสนอให้นะครับ ลองเลือกใช้ดูในธุรกิจกันนะครับ
3.กลยุทธ์การตลาดทางความสัมพันธ์
(Public Relations Strategy)

กลยุทธ์การตลาดทางความสัมพันธ์ (Public Relations Strategy) เป็นกลยุทธ์ที่เน้นใช้กิจกรรมและสื่อสารเพื่อสร้างความน่าสนใจและความพอใจในกลุ่มเป้าหมาย โดยการติดต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เพื่อสร้างความคุ้นเคยและความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์หรือองค์กร โดยไม่เสียเงินในการโฆษณา
ผม CEO แฟร์ ว่า กลยุทธ์การตลาดทางความสัมพันธ์ เป็นกลยุทธ์ที่เน้นใช้กิจกรรมและสื่อสารเพื่อสร้างความน่าสนใจและความพอใจในกลุ่มเป้าหมาย แต่ถ้าใครยังไม่เข้าใจผมมีตัวอย่างมาอธิบายให้คุณได้เข้าใจ เช่น
การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ คือ การจัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่มีระยะเวลานานเพื่อเรียกร้องความสนใจจากสื่อมวลชนและกลุ่มเป้าหมาย
การสนับสนุนกิจกรรมสังคม คือการเข้าร่วมในกิจกรรมสังคมที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น การร่วมงานกาชาดหรือเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มเพื่อสังคม
การเปิดเผยความรู้และข้อมูล คือการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และน่าสนใจให้กับสื่อมวลชน หรือการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับองค์กรหรือแบรนด์ของคุณ
การจัดงานและกิจกรรมที่สร้างสรรค์ คือการจัดงานและกิจกรรมที่เสริมสร้างความสนุกและท้าทายสำหรับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเรียกร้องความสนใจและสนับสนุนแบรนด์ของคุณ
การเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมาย คือการค้นหาและเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญในอุตสาหกรรมหรือชุมชนของคุณเพื่อสร้างความสัมพันธ์และความรู้ในการตลาดของคุณ
การใช้กลยุทธ์การตลาดทางความสัมพันธ์จะช่วยสร้างความน่าสนใจและความพอใจให้กับกลุ่มเป้าหมาย สร้างความรู้สึกและความตั้งใจในการซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ และเสริมสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์หรือองค์กรของคุณในตลาด ผม CEO แฟร์ ว่าตัวอย่างที่นำเสนอนั้น ลองเลือกใช้ดูในธุรกิจกันนะครับ
4.กลยุทธ์การตลาดทางความต้องการ
(Demand Generation Strategy)

กลยุทธ์การตลาดทางความต้องการ (Demand-based Marketing Strategy) เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการตลาดผลิตภัณฑ์หรือบริการขององค์กรหรือแบรนด์ให้เกิดความต้องการและความสนใจในตลาด โดยการปรับเปลี่ยนหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการให้ตรงกับความต้องการและความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมาย อาจเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่, การเพิ่มฟีเจอร์, การปรับราคา, การเพิ่มคุณค่าในการให้บริการ, หรือการสร้างแพ็คเกจสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า
ผม CEO แฟร์ ว่า กลยุทธ์การตลาดทางความต้องการ เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการตลาดผลิตภัณฑ์หรือบริการขององค์กรหรือแบรนด์ให้เกิดความต้องการและความสนใจในตลาด ทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกว่าสินค้าหรือบริการของคุณคือคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการและปัญหาของพวกเขา แต่ถ้าใครยังไม่เข้าใจผมมีตัวอย่างมาอธิบายให้คุณได้เข้าใจ เช่น
การตรวจสอบความต้องการของตลาด คือศึกษาและสำรวจความต้องการและความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมาย เช่น ผ่านการสำรวจความคิดเห็น, การศึกษาความต้องการของผู้ใช้สินค้าหรือบริการในตลาด
การพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการ คือพัฒนาหรือปรับปรุงผลิตภัณฑ์หรือบริการให้ตรงกับความต้องการและความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมาย ให้มีคุณภาพและความเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากคู่แข่ง
การเสนอแพ็คเกจที่ตรงกับความต้องการ คือสร้างแพ็คเกจสินค้าหรือบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการและความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ให้มีความคุ้มค่าและความเหมาะสมในราคา
การสื่อสารและการตลาด คือสื่อสารเกี่ยวกับคุณค่าและประโยชน์ของผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ ให้กับกลุ่มเป้าหมาย โดยใช้วิธีการตลาดที่เหมาะสม เช่น การโฆษณา, การตั้งค่าพิธีกรหรือตัวแทนบริการลูกค้า
การติดตามและปรับปรุง คือติดตามผลลัพธ์ของกลยุทธ์การตลาดทางความต้องการและปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตลาดของคุณ หากความต้องการหรือความสนใจเปลี่ยนแปลงควรปรับกลยุทธ์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดให้กลุ่มเป้าหมายมีความพอใจกับสินค้าหรือบริการของคุณ
ผม CEO แฟร์ ว่าตัวอย่างที่นำเสนอนั้น ลองเลือกใช้ดูในธุรกิจกันนะครับ
5.กลยุทธ์การตลาดทางสินค้า
(Product Marketing Strategy)

กลยุทธ์การตลาดทางสินค้า (Product-based Marketing Strategy) เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการตลาดสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ขององค์กรหรือแบรนด์ให้กับตลาด โดยการเน้นคุณสมบัติและคุณค่าของสินค้าในการสร้างความน่าสนใจและความเป็นเอกลักษณ์ อาจมีการเปรียบเทียบคุณสมบัติ, ประโยชน์, และคุณค่าของสินค้าเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกว่าสินค้าของคุณเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการและความพึงพอใจของพวกเขา
ผม CEO แฟร์ ว่าเป้าหมายของกลยุทธ์การตลาดทางสินค้าคือให้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของคุณมีความน่าสนใจและความพอใจในตลาด ทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกว่าสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของคุณเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการและปัญหาของพวกเขา แต่ถ้าใครยังไม่เข้าใจผมมีตัวอย่างมาอธิบายให้คุณได้เข้าใจ เช่น
การสร้างคุณค่าสินค้า คือสร้างคุณค่าให้กับสินค้าโดยการเน้นคุณสมบัติที่โดดเด่น, คุณภาพของวัสดุ, รูปลักษณ์, หรือเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตสินค้า เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกว่าสินค้าของคุณมีความคุ้มค่าและความเป็นเอกลักษณ์
การกำหนดราคาสินค้า คือกำหนดราคาสินค้าที่เหมาะสมในตลาดและตรงกับคุณค่าของสินค้า โดยอาจใช้กลยุทธ์การกำหนดราคาที่แตกต่างกัน เช่น การกำหนดราคาให้ต่ำกว่าคู่แข่งเพื่อดึงดูดลูกค้า, หรือการกำหนดราคาสูงขึ้นเพื่อสร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้กับสินค้า
การตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ คือการพัฒนาและตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการและปัญหาของกลุ่มเป้าหมาย เช่น การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่, การออกแบบใหม่, หรือการพัฒนาสินค้าใหม่ที่มีการนวัตกรรมใหม่ๆ
การแข่งขันและโปรโมชั่น คือการจัดโปรโมชั่นหรือแข่งขันในการตลาดสินค้า เช่น ส่งเสริมการขาย, การเสนอของขวัญ, หรือแคมเปญส่งเสริมการซื้อสินค้า
การเน้นส่วนต่างๆของตลาด คือการเน้นตลาดที่มีความต้องการและความพอใจต่างกัน เช่น การตลาดสินค้าสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุน้อย, กลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้บริโภครายใหม่, หรือกลุ่มเป้าหมายที่เน้นสุขภาพและความเป็นสุข
การใช้กลยุทธ์การตลาดทางสินค้าช่วยเพิ่มโอกาสในการตอบโจทย์ความต้องการและความพอใจของกลุ่มเป้าหมาย สร้างความน่าสนใจและความเชื่อมั่นให้กับสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของคุณในตลาด
ผม CEO แฟร์ ว่าตัวอย่างที่นำเสนอนั้น ลองเลือกใช้ดูในธุรกิจกันนะครับ
6.กลยุทธ์การตลาดทางราคา (Pricing Strategy)

กลยุทธ์การตลาดทางราคา (Price-based Marketing Strategy) เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ราคาสินค้าหรือบริการเป็นองค์ประกอบหนึ่งในกระบวนการตลาดเพื่อส่งเสริมการขาย สร้างความน่าสนใจให้กับสินค้าหรือบริการ และสร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ โดยอาจนำเสนอราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งหรือให้มีราคาสูงกว่าเพื่อเติมเต็มคุณค่าและความเป็นเอกลักษณ์ให้กับสินค้าหรือบริการ
ผม CEO แฟร์ว่าการใช้กลยุทธ์การตลาดทางราคาสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการดึงดูดลูกค้าใหม่ ส่งเสริมการขาย และสร้างความเชื่อมั่นในลูกค้าในตลาด การตั้งราคาสินค้าหรือบริการที่เหมาะสมและตรงกับคุณค่าที่ผู้บริโภคต้องการจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับการซื้อขายของคุณ แต่ถ้าใครยังไม่เข้าใจผมมีตัวอย่างมาอธิบายให้คุณได้เข้าใจ เช่น
ราคาต่ำกว่าคู่แข่ง (Penetration Pricing) คือการตั้งราคาสินค้าหรือบริการให้ต่ำกว่าคู่แข่งเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ โดยมุ่งเน้นทำความรู้จักและสร้างความพอใจในสินค้าหรือบริการของคุณ
ราคาสูง (Premium Pricing) คือการตั้งราคาสินค้าหรือบริการให้สูงกว่าคู่แข่งเพื่อสร้างความเป็นเอกลักษณ์และคุณค่าให้กับสินค้าหรือบริการของคุณ แบรนด์ที่มีคุณภาพสูงและความเชื่อมั่นจะสามารถใช้กลยุทธ์นี้เพื่อตั้งตัวในตลาดในระดับราคาสูง
การตั้งราคาส่วนลด (Discount Pricing) คือการให้ส่วนลดหรือโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้าและส่งเสริมการขาย ราคาสินค้าหรือบริการจะถูกลดลงเพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับกลุ่มเป้าหมาย
การตั้งราคาแบบบริสเกณฑ์ (Cost-plus Pricing) คือการตั้งราคาสินค้าหรือบริการโดยคิดตามต้นทุนการผลิตพื้นฐานและกำไรที่ต้องการ วิธีนี้อาจไม่สร้างความเป็นเอกลักษณ์หรือความพอใจให้กับลูกค้าเท่าไรก็ตาม
การเติมเต็มความคุ้มค่า (Value-based Pricing) คือการตั้งราคาสินค้าหรือบริการโดยให้คำนึงถึงความคุ้มค่าและประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากการซื้อสินค้าหรือบริการ การนำเสนอคุณค่าที่มากกว่าราคาที่เสนอไว้สามารถสร้างความพอใจให้กับลูกค้าในระยะยาว
การใช้กลยุทธ์การตลาดทางราคาช่วยให้คุณสามารถตอบโจทย์ความต้องการและความพอใจของกลุ่มเป้าหมาย สร้างความน่าสนใจและความเชื่อมั่นให้กับสินค้าหรือบริการของคุณ และเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับธุรกิจของคุณ ผม CEO แฟร์ ว่าตัวอย่างที่นำเสนอนั้น ลองเลือกใช้ดูในธุรกิจกันนะครับ
สรุป
ทั้งนี้กลยุทธ์ทั้ง 6 ที่ผมได้มานำเสนอจะช่วยให้ธุรกิจของคุณ จะสามารถช่วยเพิ่มยอดขายให้กับคุณได้อย่างแน่นอนและถ้าคุณไม่อยากปวดหัวกับการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดนี่ เราช่วยคุณได้ ปรึกษาเราสิ Images Hubs ที่จะด้านการตลาดให้กับคุณได้ คลิกปุ่มด้านล่างเพื่อติดต่อเราสิ