5 เคล็ดลับในการวางแผนการตลาดฮับ
ให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ BY CEO แฟร์

สารบัญ
1.การวิเคราะห์ตลาด (Market Analysis) และกำหนดเป้าหมาย (Marketing Objectives)

ก่อนเราจะเริ่มทำธุรกิจ CEO แฟร์แนะนำให้ทำการวิเคราะห์ทางการตลาดก่อนนะครับ เพราะเราจะต้องดูลักษณะทางการตลาดและกลุ่มเป้าหมายของลูกค้ามาก่อนเลย เพื่อจะเรียนรู้เกี่ยวกับความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้าเป้าหมาย และพิจารณาแนวโน้มและความสนใจของตลาดเพื่อให้สามารถปรับแผนการตลาดให้เหมาะสมกับตลาดเป้าหมายได้
แต่ผม CEO แฟร์ มีไกด์ไลน์ในการวางแผนการตลาดที่ยอดนิยมอยู่ คือ “การวางแผนด้วย SMART” ที่ช่วยให้กลุ่มเป้าหมายลูกค้าของคุณมีความชัดเจนและทำได้ตามความเป็นจริง ด้วยจะแบ่งตามตัวอักษร ดังนี้
- S จาก Specific (มีเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง) เป้าหมายของคุณควรเป็นเป้าหมายที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจง การระบุ “ทำเพิ่มยอดขาย” เป็นตัวอย่างที่ไม่สามารถวัดและติดตามได้เท่าที่ควร แต่ถ้าคุณระบุ “เพิ่มยอดขายสินค้าชิ้น A 10% ในช่วงไตรมาสหน้า” จะช่วยให้มีความชัดเจนและสามารถติดตามได้ง่ายกว่าเป้าหมายของคุณ
- M จาก Measurable (สามารถวัดได้) เป้าหมายควรเป็นเป้าหมายที่สามารถวัดได้ คุณควรมีตัวชี้วัดที่ชัดเจนและประเมินผลลัพธ์ของการดำเนินงาน เช่น รายได้, ยอดขาย, จำนวนลูกค้าใหม่ เป็นต้น เพื่อวัดความสำเร็จและการควบคุมการดำเนินงาน
- A จาก Achievable (เป็นไปได้) เป้าหมายควรเป็นเป้าหมายที่เป็นไปได้ คุณควรตรวจสอบทรัพยากรที่คุณมีอยู่ เช่น เงินทุน, ความสามารถของบุคคล และเทคโนโลยี เพื่อให้เป้าหมายที่คุณตั้งเป็นไปได้ในขณะที่คุณยังสามารถจัดสรรทรัพยากรให้เหมาะสม
- R จาก Relevant (สอดคล้อง) เป้าหมายควรเป็นเป้าหมายที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์และวิสัยทัศน์ของธุรกิจ มันควรมีความสัมพันธ์กับวัตถุประสงค์และค่านิยมขององค์กร การตั้งเป้าหมายที่ไม่สอดคล้องกันอาจทำให้เกิดความขัดแย้งและความสับสนในองค์กร
- T จาก Time-bound (มีระยะเวลา) เป้าหมายควรมีการกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน เพื่อให้คุณมีการควบคุมและปรับแผนการดำเนินงานได้ การกำหนดวันที่เริ่มต้นและสิ้นสุด หรือการกำหนดช่วงเวลาที่ต้องการให้คุณเป็นประโยชน์ในการวางแผนและติดตามความคืบหน้า
จากที่ผม CEO แฟร์ อธิบายเรื่อง SMART จะรู้ว่ามีความสำคัญในการมีเป้าหมายที่ชัดเจน มองเห็นภาพที่อยากจะเป็นชัดๆ เมื่อเรารู้เป้าหมายแล้วไปข้อต่อไปกันเลย
2.กลยุทธ์การตลาด (Marketing Strategy)

ในเมื่อเราได้รู้เป้าหมายของลูกค้าในการทำธุรกิจแล้ว ขั้นตอนต่อไปในการวางแผนทางการตลาดฮับ CEO แฟร์แนะนำให้เลือกกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสมกับเลือกใช้ให้ถูกจังหวะ เพื่อให้ยอดขายของคุณเพิ่มขึ้น ด้วยทาง CEO แฟร์นั้นจะมายกตัวอย่างกลยุทธ์การตลาดน่าใช้ ดังนี้
- ใช้การตลาดแบบปากต่อปาก การตลาดแบบปากต่อปากยังคงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการสร้างความน่าสนใจและความไว้วางใจกับลูกค้า ให้ลูกค้าประสบการณ์ที่ดีและการบริการที่ยอดเยี่ยม และสร้างความประทับใจที่ดีให้กับลูกค้า ทำให้พูดถึงธุรกิจของคุณและแนะนำแก่ผู้อื่น
- ทำ Upsell / Downsell กลยุทธ์ Upsell และ Downsell เน้นการเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้าที่มีการซื้อสินค้าหรือบริการแล้ว โดยการเสนอสินค้าหรือบริการที่มีคุณค่าสูงกว่าหรือต่ำกว่าสินค้าหรือบริการเดิม อาจเป็นการเสนอการอัปเกรดสินค้า, บริการเสริม, หรือเสนอสินค้าที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมเมื่อลูกค้าทำการซื้อ
- ทำโปรโมชั่น ลด/แลก/แจก/แถม การใช้โปรโมชั่น เช่น การลดราคาสินค้าหรือบริการ โปรโมชั่นแลกซื้อ โปรโมชั่นแจกของแถม หรือการสร้างแพ็กเกจที่มีความคุ้มค่า เป็นวิธีที่น่าสนใจในการดึงดูดลูกค้าใหม่ สร้างความสนใจในผลิตภัณฑ์หรือบริการ และสร้างความตระหนักในแบรนด์ของคุณ
- ทำการตลาดแบบ Outbound Marketing การตลาดแบบ Outbound Marketing เน้นการส่งข้อความโฆษณาของคุณไปยังกลุ่มเป้าหมาย ตัวอย่างเช่นการโฆษณาทางโทรทัศน์หรือวิทยุ การโฆษณาบนสื่อโซเชียล, หรือการจัดงานแสดงสินค้า เพื่อเพิ่มการรับรู้และความน่าสนใจในผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ
- ทำการตลาดแบบ Inbound Marketing การตลาดแบบ Inbound Marketing เน้นให้ลูกค้ามาหาคุณโดยเป็นธรรมชาติ โดยการสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและมีคุณค่า เช่น บทความบล็อก, วิดีโอ, โพสต์สังคมออนไลน์ และการใช้ SEO เพื่อเพิ่มการค้นหาออนไลน์ของลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ
- ทำโฆษณาบนสื่อออนไลน์ โฆษณาบนสื่อออนไลน์เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการเปิดโอกาสให้สินค้าหรือบริการของคุณถึงกลุ่มเป้าหมาย คุณสามารถใช้โฆษณาผ่านเว็บไซต์ โฆษณาบนโซเชียลมีเดีย หรือโฆษณาทางอีเมล์เพื่อเพิ่มการรับรู้และความสนใจจากลูกค้าที่เป็นไปได้
- จ้างรีวิว การจ้างรีวิวจากบุคคลที่มีอิทธิพลในช่องทางออนไลน์ เช่น บล็อกเกอร์และผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้อง สามารถช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณได้ ผู้บริโภคมักมีแนวโน้มวางความไว้วางใจในคำแนะนำจากบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้น
- ทำ Content Marketing เป็นกลยุทธ์ที่ใช้การสร้างและแบ่งปันเนื้อหาที่มีคุณค่าและน่าสนใจสำหรับกลุ่มเป้าหมาย คุณสามารถสร้างบทความบล็อก, วิดีโอ, พอดแคสต์, หรือสร้างเนื้อหาบนโซเชียลมีเดียเพื่อเพิ่มการรับรู้และความสนใจในธุรกิจของคุณ การเผยแพร่เนื้อหาผ่านช่องทางต่างๆ ช่วยสร้างความรู้จักและสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ของคุณ
จากที่ผม CEO แฟร์ บอกกลยุทธ์การตลาดนี้มีหลากหลายอย่างคุณก็ควรจะเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมเพื่อผลประโยชน์ของธุรกิจของคุณ ถ้าคุณเข้าใจแล้วก็ไปข้อต่อไปกันเลย
3.กิจกรรมการตลาด (Marketing Activities)

ในเมื่อคุณเลือกกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสมแล้ว ขั้นตอนต่อไปในการวางแผนทางการตลาดฮับ CEO แฟร์แนะนำเรื่องกิจกรรมการตลาดที่ช่วยเพิ่มยอดขายให้คุณอย่างมาก เพราะจะช่วยให้คุณรู้จักและโปรโมตธุรกิจของคุณ
- การสร้างเนื้อหา (Content Creation) สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและมีคุณค่าสำหรับกลุ่มเป้าหมายของคุณ เช่น เขียนบทความบล็อก, สร้างวิดีโอ, สร้างแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์, หรือจัดทำพอดแคสต์ เนื้อหาที่ดีช่วยสร้างความรู้จักและความไว้วางใจในแบรนด์ของคุณ
- การโฆษณา (Advertising) ใช้สื่อต่างๆ เช่น โทรทัศน์, วิทยุ, หนังสือพิมพ์, และโฆษณาออนไลน์ เพื่อเพิ่มการรับรู้และการสร้างความสนใจในผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ
- การโปรโมตผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media Marketing) ใช้แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Facebook, Instagram, Twitter, LinkedIn เพื่อสร้างความสนใจและปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายของคุณ โพสต์เนื้อหาที่น่าสนใจ, ร่วมแสดงความคิดเห็น, และตอบสนองต่อลูกค้าเพื่อสร้างความสัมพันธ์และความไว้วางใจในแบรนด์ของคุณ
- การจัดงานแสดงสินค้าและอีเวนต์ (Trade Shows and Events) การเข้าร่วมแสดงสินค้าและอีเวนต์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ เช่น งานแสดงสินค้าอุตสาหกรรม, การแถลงข่าวสินค้าใหม่, หรือการจัดกิจกรรมพิเศษ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเชื่อมต่อกับลูกค้าและผู้สนใจ
จากที่ผม CEO แฟร์ บอกกิจกรรมการตลาดนี้เป็นสิ่งที่สำคัญในการเพิ่มยอดขายให้กับคุณ และถ้าคุณเข้าใจแล้วก็ไปข้อต่อไปกันเลย
4.การวัดผลและประเมินผล (Measurement and Evaluation)

เมื่อคุณได้ทำธุรกิจแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ การวัดผลและประเมินผล คุณจะได้รู้ว่าควรปรับปรุง อะไรที่ควรทำต่อ และงบประมาณควรนำไปลงทุนกับเรื่องใด เพราะว่า “แผนการตลาดที่สมบูรณ์ไม่มีอยู่จริง”
CEO แฟร์มีข้อแนะนำในการวัดผลและประเมินผล เป็นขั้นตอน ดังนี้
- ตั้งเป้าหมาย (Set Objectives) กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและมีค่าที่เป็นไปได้ เช่น เพิ่มยอดขาย, เพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่, เพิ่มการรับรู้แบรนด์ เป็นต้น การตั้งเป้าหมายช่วยกำหนดทิศทางและการวัดผลของแผนการตลาด
- กำหนดตัวชี้วัด (Define Key Performance Indicators – KPIs) เลือกตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายของคุณ เช่น ยอดขาย, อัตราการเปิดอ่านอีเมล์, อัตราการคลิกโฆษณา เป็นต้น ตัวชี้วัดจะช่วยให้คุณวัดและติดตามความสำเร็จของแผนการตลาดรวบรวมข้อมูล (Collect Data): สะสมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตัวชี้วัดที่กำหนด เช่น ข้อมูลการขาย, ข้อมูลการกดเข้าชมเว็บไซต์, ข้อมูลการตอบกลับจากลูกค้า ควรใช้เครื่องมือวัดเชิงคุณภาพและเครื่องมือวัดเชิงปริมาณเพื่อรวบรวมข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและเชื่อถือได้
- วิเคราะห์และประเมินผล (Analyse and Evaluate) วิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บรวบรวมและประเมินผลการดำเนินงานของแผนการตลาด ดำเนินการเปรียบเทียบตัวชี้วัดกับเป้าหมายที่กำหนดไว้ วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาปัญหาหรือแนวทางปรับปรุงในการดำเนินงานของแผนการตลาด
- ปรับปรุงแผนการตลาด (Refine the Marketing Plan) อิงผลการประเมินผลและวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงแผนการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ระบุเรื่องที่จำเป็นต้องปรับปรุงและหาวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพในกิจกรรมการตลาด
- ส่งเสริมความสัมพันธ์และการแบ่งปัน (Promote Relationships and Sharing) สื่อสารผลการตลาดให้กับทีมงานและผู้ที่เกี่ยวข้อง เผยแพร่ความสำเร็จของแผนการตลาดและเรียนรู้จากประสบการณ์ เพื่อส่งเสริมการทำงานร่วมกันและแบ่งปันความรู้เพื่อประสิทธิภาพในการตลาด
จากที่ผม CEO แฟร์ บอกการวัดผลและประเมินผล เพราะสำคัญในการเดินหน้าในการทำธุรกิจ และถ้าคุณเข้าใจแล้วก็ไปข้อต่อไปกันเลย
5.การวิจัยและการเรียนรู้(Research and Learning)

เมื่อเราวัดผลและประเมินผลเสร็จแล้วนั้น CEO แฟร์แนะนำต่อคือการวิจัยและการเรียนรู้เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการสร้างและปรับปรุงแผนการตลาด เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของคุณอย่างลึกซึ้งและปรับแผนการตลาดเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือขั้นตอนการวิจัยและการเรียนรู้ในแผนการตลาด
- วิเคราะห์ตลาดและการค้นคว้า (Market Analysis and Research) ศึกษาและวิเคราะห์ตลาดเพื่อเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย, พฤติกรรมผู้บริโภค, แนวโน้มตลาด, และคู่แข่งในตลาด ทำการวิจัยโดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ตลาด เช่น การสำรวจความคิดเห็น, การวิเคราะห์ข้อมูลตลาด, การศึกษาทัศนคติผู้บริโภค เพื่อเข้าใจแนวโน้มและความต้องการของตลาด
- การศึกษาคู่แข่ง (Competitor Analysis) วิเคราะห์และศึกษาการดำเนินธุรกิจของคู่แข่ง เพื่อให้คุณเข้าใจเหตุผลที่ทำให้คู่แข่งเป็นที่ต้องการของลูกค้าและหาความแตกต่างในการตลาดของคุณ
- การเรียนรู้จากผู้บริโภค (Consumer Insights) ศึกษาและเข้าใจความต้องการ, ความพึงพอใจ, และพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า เพื่อปรับแผนการตลาดให้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การวิเคราะห์การตลาดก่อนการเริ่ม (Pre- and Post-Campaign Analysis)ด้วยการเปรียบเทียบผลการตลาดกับเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยใช้ตัวชี้วัดที่สอดคล้องกับเป้าหมายการตลาด
- การสะท้อนกลับและปรับปรุง (Feedback and Improvement)รับข้อมูลจากผลการตลาดและความคิดเห็นของลูกค้า เพื่อปรับแก้แผนการตลาดและกิจกรรมต่อไปให้เหมาะสมกับความต้องการและความสนใจของลูกค้า
เมื่อเขารู้ว่าการวิจัยและการเรียนรู้ในแผนการตลาดฮับช่วยให้คุณได้ข้อมูลที่มีคุณภาพเพื่อตัดสินใจที่ดีเกี่ยวกับการปรับแผนการตลาด ปรับแก้ปัญหา และนำเสนอกิจกรรมตลาดที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณ
สรุป
การแผนวางการตลาดฮับ นั้นสำคัญมากในการทำธุรกิจ เพราะมันสามารถช่วยให้ผู้ประกอบการทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นและตรงกับเป้าหมายมากขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากทำเรื่องนี้ให้ปวดหัว CEO แฟร์ แนะนำให้มากับการตลาดออนไลน์กับ Images Hubs เพราะเราสามารถช่วยวางแผนการตลาดให้กับคุณได้โดยเรามีทีมงานมืออาชีพในการดูแลเรื่องการตลาด ติดต่อเราตามปุ่มทิ่อยู่ด้านล่างได้เลย
แต่ถ้าคุณยังไม่รู้เรื่องการตลาดเราก็แนะนำให้ไปอ่านบทความ “การตลาดคืออะไร” ตรงปุ่มด้านล่างได้เลย